ประเพณีบุญข้าวประดับดิน เป็นพิธีกรรมของชาวอีสานในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดยมีการนำข้าวปลาอาหารและของใช้ต่างๆ มาประดับที่พื้นดินเพื่อถวายแก่บรรพบุรุษและวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว พิธีนี้มักจัดขึ้นในช่วงเดือน 9 หรือช่วงเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนตามปฏิทินจันทรคติไทย เพื่อให้วิญญาณได้รับอาหารและของใช้ที่จำเป็นในโลกหลังความตาย
.
พิธีกรรมนี้มีความหมายในการแสดงความเคารพและระลึกถึงบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมีการจัดเตรียมข้าวสุกปั้นเป็นคำๆ หมากพลู บุหรี่ ผลไม้ ขนม (เรียกว่ายายห่อข้าวน้อย) และของใช้ที่จำเป็น เช่น เสื้อผ้า ผ้าห่ม น้ำมัน เป็นต้น และนำไปวางที่พื้นดินในบริเวณที่สะอาดและเป็นมงคลใกล้ๆบ้าน สถานที่ที่นิยมนำไปวางคือ ทางสามแพร่ง สี่แพร่ง โดยทำกันแบบเงียบๆ ไม่มีการตีฆ้องหรือเสียงดนตรีส่งสัญญาณใดๆ เพื่อให้วิญญาณที่เร่ร่อนหรือบรรพบุรุษได้รับประทานอาหารและนำของใช้ไปในโลกหลังความตาย
.
นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าวิญญาณอาจมาปรากฏตัวในช่วงเวลานี้โดยเชื่อกันกว่าประตูนรกจะเปิดให้ดวงวิญญาณ ผี และเปรตมายังภพภูมิโลกมนุษย์ เพียงระยะเวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้น หาก พิธีกรรม ไม่ได้จัดอย่างถูกต้องหรือขาดความเคารพต่อวิญญาณที่ล่วงลับไปแล้ว บางคนเล่าว่ามีปรากฏการณ์ลี้ลับเกิดขึ้น เช่น ได้ยินเสียงฝีเท้าหรือรู้สึกถึงการปรากฏตัวของวิญญาณในบ้าน
.
สะท้อนความเชื่อในเรื่องการส่งผลบุญให้กับวิญญาณ โดยเชื่อว่าการทำบุญในวันนี้จะช่วยให้วิญญาณได้ไปสู่สุคติและหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด เป็นพิธีกรรมที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคนเป็นและคนตาย รวมถึงการให้ความสำคัญกับการทำบุญและการแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ
.
ขอบคุณที่มา : https://www.thairath.co.th/lifestyle/calendar/2725075... เครดิตภาพ : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ จ.หนองคาย (www.thainews.prd.go.th)