HOME
 
 
CONTACT
  Today topic  
 

เรื่องการ “ฝังคนทั้งเป็น” ในกำแพงเมืองก็ดี ศาลหลักเมืองก็ดี หรือสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ต่างๆ

 
  29/03/2023  
 

ซึ่งมีความเชื่อ เพื่อหวังให้วิญญาณผู้ตาย เฝ้ารักษาบ้านเมือง หรือสิ่งก่อสร้างนั้นให้ยั่งยืน เป็นตำนานที่เล่าลือกันมาในสังคม ซึ่งไม่ใช่เพียงรับรู้กันในหมู่คนไทย ชาวต่างชาติที่เคยเข้ามาในไทย หรือสื่อต่างชาติที่เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองไทยก็คงรับรู้และกล่าวถึงคติความเชื่อนี้เช่นกัน

เมื่อสร้างประตูเมืองใหม่ในกำแพงพระนคร หรือแม้เพียงซ่อมขึ้นใหม่ ไม่ทราบว่าเขาใช้กำหนดกฎถือโชคถือลางข้อไหน ที่ว่าต้องฆ่าคนที่บริสุทธิ์คือไม่มีความผิดเสียสามคน การกระทำอันป่าเถื่อนนั้นมีดังนี้ คือ หลังจากที่พระเจ้าแผ่นดินได้ทรงปรึกษากับขุนนางผู้ใหญ่เป็นการลับแล้ว ก็ส่งราชบุรุษคนหนึ่งไปที่ประตูเมืองที่จะดำเนินการซ่อมแซมนั้น นานๆ ครั้งราชบุรุษนั้นจะทำทีตะโกนเรียกหาใครคนหนึ่งนั้นขึ้นมาดังๆ เขาออกชื่อประตูเมืองนั้นซ้ำซากหลายครั้งหลายหน ปรากฏอยู่เนืองๆ ว่าประชาชนที่ผ่านไปมา เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกทางเบื้องหลัง ก็มักจะเหลียวหน้ามาดู ทันใดนั้นราชบุรุษกับพวกก็จะเข้ารุมล้อมจับเอาคนที่เหลียวหน้ามาดูนั้นไปสามคน

อันเป็นที่แน่ว่าชะตาชีวิตของเขาถึงฆาตแล้ว ไม่มีการปฏิบัติใดๆ สัญญาประการใดๆ หรือการเสียสละใดๆ ที่จะช่วยชีวิตเขาไว้ได้ เขาขุดหลุมใหญ่ขึ้นในช่องประตูเมืองนั้น แล้วผูกเสาคานใหญ่ชักขึ้นไปเหนือหลุมนั้นในระดับสูงพอสมควร โยงไว้ด้วยเส้นเชือกสองเส้นหัวท้ายให้เสาหรือซุงนั้นแขวนอยู่ตามทางนอนเหมือนอย่างลูกหีบ (pressoir)

คนไทยเชื่อว่าผู้เคราะห์ร้าย ผู้ตกเป็นเหยื่อของการถือโชคลางนั้น จะกลายสภาพเป็นอารักษ์จำพวกที่เรียกกันว่า ผี (phi) ราษฎรสามัญบางคนก็กระทำการฆาตกรรมแก่ทาสของตนในทำนองเดียวกันนี้ เพื่อใช้เป็นผีเฝ้าขุมทรัพย์ที่ตนฝังซ่อนไว้…” [จัดย่อหน้าใหม่ และสั่งเน้นคำโดยกองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม]

ไกรฤกษ์ นานา นักวิชาการอิสระที่สะสมเอกสารต่างชาติเกี่ยวกับประเทศไทย พบเรื่องราวลักษณะดังกล่าวในวารสาร A TRAVERS LE MONDE (ฉบับวันที่ 22 Aout 1905) วารสารฝรั่งเศสที่กล่าวถึงความเชื่อเรื่องประหลาดในกรุงสยาม เกี่ยวกับประเพณีของคนโบราณที่เชื่อถือกันว่า เมื่อจะสร้างกำแพงเมืองขึ้นใหม่ก็ต้องประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ โดยการนำคนเป็นๆ มาฝังไว้ที่ประตูเมือง เพื่อวิญญาณของผู้ตายจะได้เป็นทวารบาลเฝ้าประตูเมืองต่อไป

วารสารฝรั่งเศสวาดภาพความเชื่ออันแปลกประหลาดนี้ กล่าวว่า เป็นพิธีกรรมที่เกิดขึ้นครั้งหนึ่งบนดินแดนล้านช้าง (ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของสยามประเทศ) เมื่อ ค.ศ. 1905 (พ.ศ. 2448) โดยมีพระเจ้าแผ่นดินสยามเสด็จฯ พระราชินีและขุนนางคนสำคัญ พร้อมด้วยโหรพราหมณ์ มาทรงเป็นองค์ประธานในพิธีนี้ด้วย เพื่อสื่อให้เห็นว่าเป็นพิธีสำคัญระดับชาติเนื่องจากเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมือง เป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้นำประเทศ แต่เป็นเรื่องงมงายในสายตาชาวตะวันตกที่ได้พบเห็น

ทว่าภายหลังที่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่าพิธีดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นเลยในสมัยรัตนโกสินทร์

ขอบคุณที่มา : เสมียนนารี
https://www.silpa-mag.com/history/article_81027

 
           
Copyright © 2021 SOCOOL LIMITED. All right reserved.