ในช่วงศตวรรษที่ 18-19 ณ เมืองเอดินเบิร์ก ประเทศสก็อตแลนด์ ในตอนนั้นเมื่องนี้ผู้นำทางด้านงานวิจัย ความรู้ด้านการแพทย์กำลังเฟื่องฟู ทำให้ธุรกิจโรงเรียนด้านการแพทย์มีจำนวนมากขึ้น โดยการศึกษาด้านการแพทย์แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องศึกษาเกี่ยวกับกายวิภาค (Anatomy) หรือการนำร่างมนุษย์ที่เสียชีวิตแล้วมาศึกษาต่อ เพื่อเรียนรู้ระบบภายในว่าเป็นอย่างไร
.
โดยการผ่าตัดศพมนุษย์เพื่อศึกษานั้น ยังคงมีข้อจำกัดตามกฎหมาย โดยกำหนดให้ศพที่ใช่ในการเรียนการสอนแพทย์นั้น ต้องเป็น “ศพอาชญากร” ที่ถูกประหารชีวิตแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการศพเพื่อมาศึกษาก็มีมากเกินกว่าที่จะใช้แค่ศพอาชญากรเพียงอย่างเดียว
.
โดยความต้องการที่มากขนาดนี้ ทำให้โรงเรียนปล่อยข่าวว่ายินดีที่จะจ่ายค่าศพ เพื่อที่จะนำมาให้นักเรียนได้ศึกษา โดยร่างที่ใช้ต้องเป็นศพที่เสียชีวิตใหม่ ๆ เพราะหากใช้ร่างที่เสียเสียชีวิตมานานแล้ว ร่างกายก็จะเริ่มเน่าเปื่อยจนใช้ศึกษาไม่ได้แล้ว
.
เมื่อความต้องการศพมากขึ้น ทำให้การถูกขโมยศพก็มากขึ้นเช่นกัน ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตต้องมาเฝ้าศพเป็นเวลา 2-3 วัน ซึ่งเป็นช่วงก่อนศพจะเน่าเปื่อยเพื่อป้องกันการถูกขโมย
.
แน่นอนว่าทำให้โรงเรียนแพทย์หมดหวังที่จะได้ร่างกายศพที่สดใหม่มากขึ้น และพวกเขาก็เริ่มเสนอเงินเพิ่มมากขึ้น และนี่คือจุดที่ทำให้เกิด “การฆ่าขายศพ” ขึ้น
.
เรื่องนี้เริ่มจาก วิลเลียม เบิร์ก และวิลเลียม แฮร์ ได้นำศพของชายวัยชราที่พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าที่วิลเลียม แฮร์ และภรรยาของเขาเป็นเจ้าของ แถมชายชราผู้นี้ยังติดเงินค่าเช่าเขา 4 ปอนด์อีกด้วย เขาจึงตัดสินใจขายศพชายชราผู้นี้ ให้กับคุณหมอโรเบิร์ต น็อกซ์ โดยขายได้ในราคาประมาณ 7.1 ปอนด์
.
หลังจากนั้น 2-3 เดือน ผู้เช่ารายหนึ่งเริ่มมีอาการเป็นหวัด จึงทำให้วิลเลียม เบิร์ก และวิลเลียม แฮร์ เห็นโอกาสนี้จึงตัดสินใจฆาตกรรมเขาโดยเริ่มจากการมอมเหล้าให้เขาเมาไม่ได้สติ ก่อนที่จะบีบจมูกและปิดปากจนเขาสิ้นใจ และพวกเขาก็นำร่างนั้นไปขายอีกเช่นเคย
.
พวกเขาจึงตัดสินใจเริ่มทำธุรกิจนี้ โดยการเลือกฆ่าคนที่อ่อนแอ และเสียชีวิตตามธรรมชาติได้ง่าย โดยการล่อล่วงมาที่ห้องเช่าของเขา และทำการฆาตกรรม
.
จนถึงศพที่ 15 โดยหญิงสาวคนนี้มีชื่อว่าแมรี่ แมรี่ถูกพบศพในห้องเช่าของแฮร์ ซึ่งคนที่เข้าไปพบจริง ๆ แล้วเขาแค่จะไปหยิบของที่ห้องเช่า แต่เขาพบศพโดยบังเอิญจึงนำรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจ หลังจากนั้นเบิร์ก และแฮร์ ได้กลับมาเคลื่อนย้ายร่างของแมรี่ไปขายให้หมอโรเบิร์ต ก่อนที่ตำรวจจะมาถึง
.
แต่เมื่อตำรวจทำการสอบสวนขยายผลแล้วก็พบว่า ศพของแมรี่นั้นไปอยู่ในชั้นเรียนของหมอโรเบิร์ต ทำให้สืบสาวถึงตัวฆาตกรได้ว่าเป็น วิลเลียม เบิร์ก และวิลเลียม แฮร์ ทำให้ทั้งสองถูกจับกุมในเวลาต่อมา
.
สุดท้ายแล้วก็มีการตัดสินว่าวิลเลียม เบิร์กคือผู้นำในการฆาตกรรม ส่วนวิลเลียม แฮร์ ได้หักหลังวิลเลียม เบิร์ก โดยรับสารภาพ และขอการคุ้มครองพยานพร้อมทั้งให้การเล่าถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับคดี
.
วิลเลียม เบิร์ก ก็ได้ถูกลงโทษประหารชีวิตโดยการถูกแขวนคอในที่สาธารณะ ซึ่งใช้เวลา 2 นาทีกว่าเขาจะสิ้นลมหายใจ
.
