เชื่อหรือไม่? ประเทศในอเมริกาใต้บางส่วน มีการทานเนื้อ คาปิบาร่า กันเป็นเรื่องปกติ
.
คาปิบาร่าเป็นสัตว์ฟันแทะขนาดยักษ์ ที่มีลักษณะเหมือนลูกผสมระหว่างหนูตะเภาตัวใหญ่ กับบีเวอร์ มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ ซึ่งพวกมันถูกล่าเพื่อเอาเนื้อมาทานนานหลายศตวรรษ
.
ประเทศที่นิยมทานเนื้อคาปิบาร่าได้แก่ โคลอมเบีย บราซิล และเวเนซุเอลา เนื้อคาปิบาร่าเป็นอาหารดั้งเดิมในหลายภูมิภาค รสชาติ และเนื้อสัมผัสคล้ายกับเนื้อหมู หรือเนื้อวัว มีรสเค็ม และกลิ่นคาวกว่ามาก เมนูที่นิยมทานคือ สตูว์เนื้อคาปิบาร่า คาปิบาร่าย่าง ไส้กรอกคาปิบาร่า และซี่โครงคาปิบาร่าย่าง
.
การทานเนื้อคาปิบาร่าโดยเฉพาะประเทศเวเนซุเอลาในช่วงศตวรรษที่ 16 - 18 ที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์คาทอลิค ซึ่งในหนึ่งปีจะมี เทศกาลมหาพรต เป็นเวลายาวนานถึง 40 วัน โดยงดทารทานเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะวัว หมู ไก่ และอนุโลมให้ทานได้เฉพาะ “เนื้อปลา” แต่เมื่อชาวเวเนซุเอลาไปเจอ “หมูน้ำ” หรือเจ้าคาปิบาร่าว่ายน้ำอยู่ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชาวเวนาซุเอลายื่นเรื่องต่อศาสนจักรให้จัดว่าเจ้าคาปิบาร่านั้นเป็น “ปลา” และสามารถทานได้ในเทศกาลมหาพรต แต่เมื่อหลังจากเทศกาลนี้จบคนก็ยังไม่เลิกบริโภคเนื้อคาปิบาร่า แต่กลับกันการบริโภคยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
.
โดยการบริโภคกันอย่างหนักหน่วงนี้ทำให้เจ้าสัตว์พวกนี้ใกล้สูญพันธุ์ เหลือจำนวนประชากรเพียง 20% เท่านั้น จนทำให้รัฐบาลประเทศเวเนซุเอลาต้องใช้มาตราการ จัดให้พวกเจ้าคาปิบาร่าเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมาย ถึงถูกคุ้มครองแล้วแต่ก็ยังคงมีการลักลอบขายเนื้อคาปิบาร่า เพราะได้กำไรมากกว่าขายเนื้อสัตว์ถึงสองเท่า
.
แต่ในปัจจุบันก็ยังคงมีข้อถกเถียงกันเรื่องการทานเนื้อคาปิบาร่า ในเรื่องของความโหดร้าย และวัฒนธรรมดั้งเดิมของในบางพื้นที่อีกด้วย
.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
