ครูกายแก้ว อสูรเทพแห่งโชคลาภ
ทำไมถึงมีลักษณะเหมือน เวตาล ?
หรือนี่คือกลยุทธ์ ของการทำธุรกิจ
กับความเชื่อ ความศรัทธา

รูปลักษณ์ขององค์ครูกายแก้วหรือ “พ่อใหญ่ บรมครูผู้เรืองเวทย์” คือ มีรูปลักษณ์คล้ายกับผู้บำเพ็ญตน นั่งขัดสมาธิ หน้าตาน่าเกรงขาม เนื่องจากด้านหลังมีปีก ตามีสีแดงฉาน เล็บยาวงุ้ม ส่วนบริเวณใบหน้ามีเขี้ยวคล้ายนกการเวก ซึ่งเป็นสัตว์โบราณในป่าหิมพานต์

จึงเชื่อกันว่าครูกายแก้วเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งนก อ้างอิงตามหลักฐานที่ปรากฏอยู่บนกำแพงบายน ที่มีประวัติของการเวกซึ่งเป็นพวกนักดีดสีตีเป่า ถือเป็นครูของศาสตร์ศิลป์ทั้งหลายในยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของกัมพูชา ซึ่งในยุคนั้นขอมรุ่งเรืองที่สุด น่ากลัวที่สุด

ส่วนข้อมูลอีกด้านนึง มัคคุเทศก์นำเที่ยวเมืองนครวัด ก็ได้ เปิดเผยข้อมูลอีกแง่ของประวัติครูกายแก้ว ว่าไม่ตรงข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ กล่าวคือ ภาพที่ดูเหมือนภาพต้นฉบับของ "ครูกายแก้ว" นี้ เพิ่งจะแกะสลักเพียงปี พุทธศักราช ๒๑๐๖ เท่านั้น หรือเพียง ๔๖๐ปีเท่านั้น
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ เรื่องราวของ "ครูกายแก้ว" นี้จึงไม่มีความเก่าแก่ถึงยุค "สูรยวรมเทวะ ที่๒" หรือ "ชัยวรมเทวะ ที่๗" ตามที่ผู้สร้างรูปนี้ กล่าวอ้าง แต่อย่างใด

ปัจจุบันครูกายแก้ว เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านจำนวนมาก โดยหลายคนพากันกราบไหว้ท่านในช่วงก่อนวันหวยออก เพราะเชื่อว่าท่านสามารถช่วยพลิกชีวิตได้ แถมชื่อเสียงความศักดิ์สิทธิ์ของครูกายแก้ว ยังโด่งดังไปไกลถึงหลายประเทศในแถบเอเชีย อาทิ จีน ไตหวัน ฮ่องกง

แต่ท่ามกลางความศรัทธาก็มีบางกลุ่ม วิพากษ์วิจารณ์ กันว่า หลักฐานทางประวัติศาสตร์ก็ยังไม่มีร่องรอยที่แน่ชัด มีแต่การกล่าวอ้างว่ามาเข้าฝันและเนรมิตกายให้เห็น และรูปลักษณ์ยังอิงไปทางอสูรครึ่งสัตว์ครึ่งคนมีที่มาจากเขมร ซึ่งก็มีจำนวนไม่น้อยที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการศรัทธาครูกายแก้วว่าจะเป็นการนับถือผีหรืออสูรกายหรือไม่

ขอขอบคุณที่มา
: https://www.nationtv.tv/lottory/378926386
: https://www.komchadluek.net/news/society/555757