HOME
 
 
CONTACT
  TODAY TOPIC  
 

รู้หรือไม่?'การกินเนื้อคน' ในยุคกลางเป็นเรื่องปกติ

 
  07/02/2025  
 
เมื่อเราดูภาพยนตร์สยองขวัญ บางครั้งเราจะเห็นฉากของฆาตกรที่กินชิ้นส่วนมนุษย์ ซึ่งคงเป็นภาพที่ยากจะจินตนาการถึงรสชาติหรือความรู้สึกนั้น แต่ที่แน่ ๆ ก็คือมันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปเขาทำกัน
.
การกินมนุษย์เคยเป็นเรื่องที่นิยมอย่างมากในอดีต นักรบโรมันโบราณดื่มเลือดศัตรูที่พ่ายแพ้เพื่อดูดซับพลังและเพิ่มความแข็งแกร่ง ขณะที่หมอโบราณในเมโสโปเตเมียและอินเดียเชื่อว่าชิ้นส่วนของมนุษย์มีพลังในการรักษาโรค
.
ในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 16-17 ความเชื่อนี้ได้แพร่หลายในหมู่ขุนนางและนักบวชที่ใช้กะโหลกศีรษะและเลือดมนุษย์เป็นส่วนประกอบของยาเนื่องจากเชื่อว่า "มัมมี่" ของอียิปต์ช่วยรักษาโรคได้ แพทย์ยุโรปจึงมักบดชิ้นส่วนของมัมมี่แห้งเพื่อใช้ห้ามเลือด และเชื่อว่าเลือดสดยิ่งมีพลังมากขึ้น
.
กะโหลกศีรษะมนุษย์ที่มักถูกนำมาทำเป็นผงใช้ในการรักษาอาการปวดหัวและโรคลมชัก หรือแม้แต่ผสมกับช็อกโกแลตเพื่อรักษาโรคเลือดออก นอกจากนี้ กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษยังเคยสร้างสูตรลับ "The King’s Drop" ด้วยการผสมผงกะโหลกกับแอลกอฮอล์
.
“ไขมันมนุษย์” ถูกนำมาใช้ในการรักษาอาการบาดเจ็บภายนอก เช่น แผลเปิด โดยแพทย์จะละลายไขมันและพันรอบบาดแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อีกทั้งยังช่วยรักษาโรคเกาต์ได้ด้วยการถูไขมันลงบนผิว
.
“เลือดมนุษย์” ก็มีความสำคัญในยุคนั้น เนื่องจากเชื่อกันว่ามี ‘พลังชีวิต’ โดยเฉพาะเลือดของหนุ่มสาวพรหมจารี Paracelsus แพทย์ชาวเยอรมันกล่าวว่า การดื่มเลือดจะรักษาโรคได้เกือบทั้งหมด และยิ่งมีประสิทธิภาพหากได้ดื่มเลือดจากคนที่ยังมีชีวิต นอกจากนี้ ยังเคยมีการจ่ายเงินให้กับผู้ต้องโทษประหารเพื่อแลกกับเลือดที่ยังอุ่น และในปี 1679 ยังมีสูตรทำแยมจากเลือดมนุษย์อีกด้วย
.
ความเชื่อที่ว่าการบริโภคชิ้นส่วนมนุษย์เป็นการเพิ่มพลังให้แก่ผู้กินนั้นได้รับการสนับสนุนจากความคิดที่ว่า “การกินแก่นแท้ของมนุษย์” จะทำให้ผู้กินได้รับพลังและปัญญา ตามคำกล่าวของ Leonardo da Vinci ว่า “เรารักษาชีวิตด้วยความตายของผู้อื่น สิ่งที่ตายแล้ว ชีวิตที่ไม่รู้สึกตัวยังคงอยู่ และเมื่อมันถูกรวมเข้ากับท้องของสิ่งมีชีวิต ก็จะได้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความอ่อนไหวและปัญญา”
.
อย่างไรก็ตาม เมื่อวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าในช่วงศตวรรษที่ 18 ความเชื่อเหล่านี้เริ่มถูกท้าทาย การใช้ชิ้นส่วนมนุษย์ในการรักษาจึงกลายเป็นเรื่องอันตราย เช่น เทียนที่ทำจากไขมันมนุษย์ (เทียนขโมย) ที่สามารถทำให้ผู้ที่ถูกทาเป็นอัมพาตได้
.
แต่ในปัจจุบัน การใช้ชิ้นส่วนมนุษย์ในการรักษาโรคได้รับการพัฒนาเป็นวิธีการทางการแพทย์ที่ปลอดภัย เช่น การปลูกถ่ายอวัยวะและการถ่ายเลือด ที่ได้กลายเป็นวิธีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง
.
ขอขอบคุณที่มา https://allthatsinteresting.com/medicinal-cannibalism

 


 
           
Copyright © 2021 SOCOOL LIMITED. All right reserved.