ช้างเอราวัณ หรือ "ไอราวตะ" เป็นช้างพาหนะคู่ใจของพระอินทร์ เทพผู้ครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตามคติในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ช้างตนนี้มีพลังอำนาจมหาศาล มีรูปร่างใหญ่โตสูงตระหง่าน สีขาวบริสุทธิ์ และมีเศียรมากถึง 33 เศียรในบางตำนาน หรือ 3 เศียรตามศิลปะที่ปรากฏในไทย สื่อถึงความเป็นมงคลสูงสุดและพลังแห่งสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่
.
ตำนานกล่าวว่า เอราวัณถือกำเนิดจากฟองน้ำอมฤตขณะที่เหล่าเทพและอสูรร่วมกันกวนเกษียรสมุทรเพื่อสร้างสรรพสิ่งอันเป็นมงคล ช้างเอราวัณจึงไม่ใช่เพียงสัตว์วิเศษ หากแต่เป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโลกมนุษย์กับสวรรค์ เป็นพาหนะที่พระอินทร์ใช้เหาะเหินเดินทางระหว่างโลก โดยมีบทบาททั้งในการสู้รบ ปราบอสูร และปกป้องสวรรค์
.
หนึ่งในสถานที่ซึ่งศรัทธาเรื่องช้างเอราวัณฝังรากลึกในใจผู้คน คือ “พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ” ที่จังหวัดสมุทรปราการ สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนความเชื่อ ความศรัทธา และเล่าเรื่องจักรวาลตามคติศาสนา โดยภายในอาคารประกอบด้วยโลกมนุษย์ โลกสวรรค์ และ "ใต้ท้องช้าง" ซึ่งเป็นพื้นที่แสดงเรื่องราวของป่าหิมพานต์ ดินแดนลี้ลับที่เต็มไปด้วยสัตว์วิเศษ เทพเทวี และพลังเหนือธรรมชาติ ตามตำนานเล่าว่า ป่าหิมพานต์ตั้งอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ เป็นเสมือนประตูเชื่อมโลกกับสวรรค์ ซึ่งช้างเอราวัณก็บินข้ามผ่านป่าแห่งนี้ทุกครั้งที่พระอินทร์มีบัญชา
.
ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของช้างเอราวัณ ผู้คนจึงนิยมไปกราบไหว้ ขอพร และบนบานศาลกล่าว โดยเฉพาะเรื่องงาน การเงิน และโชคลาภ หลายคนเชื่อว่า “ถ้าขอด้วยใจศรัทธา เอราวัณจะช่วยส่งต่อคำขอต่อพระอินทร์” และหลายกรณีก็เล่าขานต่อกันว่าขอแล้ว “สมหวังอย่างน่าอัศจรรย์”
.
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีตำนานเตือนใจเกี่ยวกับ “อาถรรพ์ของผู้ที่บนแล้วไม่แก้” กล่าวกันว่าช้างเอราวัณมีจิตแห่งเทพสถิตอยู่ คำบนจึงเป็นคำสัจจะที่สื่อถึงสวรรค์ การลืมแก้บน หรือจงใจไม่รักษาสัญญา อาจนำมาซึ่งเคราะห์กรรมที่ตามติด คนที่เคยลืมหรือเพิกเฉยต่อการแก้บน มักพบกับเหตุไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นเจ็บป่วย หน้าที่การงานติดขัด หรือฝันร้ายซ้ำ ๆ จนต้องกลับไปขอขมา และทำพิธีแก้ตามที่เคยลั่นวาจาไว้
.
เรื่องราวเกี่ยวกับ “คนที่บนแล้วไม่แก้” กับช้างเอราวัณ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ นั้นมีหลายเรื่องที่ถูกเล่าต่อกันในรูปแบบ ตำนานเล่าขาน หรือ ประสบการณ์ส่วนตัวที่แชร์กันในสื่อโซเชียล ซึ่งแม้จะไม่มีหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์ชัดเจน แต่ถูกเล่ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะสะท้อน “แรงศรัทธา” และ “บทเรียน” ที่สอนให้ผู้คนรู้จักรักษาสัจจะ
.

ตำนานหญิงสาวบนขอเรื่องงานกับช้างเอราวัณ แล้วลืมแก้
มีเรื่องเล่าหนึ่งที่ชาวบ้านในย่านสมุทรปราการเชื่อและเตือนกันปากต่อปาก ว่าเคยมีหญิงสาวคนหนึ่งเป็นพนักงานบริษัทที่กำลังถูกเลิกจ้างอย่างกะทันหัน เธอเคยไปกราบไหว้ช้างเอราวัณและบนไว้อย่างตั้งใจว่า “ถ้าได้งานใหม่ภายใน 7 วัน จะซื้อพวงมาลัย 99 พวงมาแก้บน พร้อมถวายผลไม้และรำหน้าองค์ช้างสามเศียร”
.
หลังจากกลับมาไม่กี่วัน เธอก็ได้งานใหม่จริง ๆ แบบไม่ทันตั้งตัว เป็นงานในฝัน รายได้ดีและใกล้บ้าน แต่ด้วยความดีใจ เธอกลับลืมคำพูดที่ให้ไว้ คิดแค่ว่า “เอาไว้ค่อยไปก็ได้” เวลาผ่านไปเป็นเดือน แล้วทุกอย่างในชีวิตเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป: งานเริ่มมีปัญหา เจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ หลับไม่สนิท ฝันถึงช้างใหญ่ตัวหนึ่งมายืนเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร แค่จ้องมอง
.
เมื่อทนไม่ไหว เธอไปขอคำแนะนำจากร่างทรงในละแวกนั้น ซึ่งบอกว่า “เจ้าลืมคำที่ให้ไว้กับเบื้องบน” และแนะนำให้รีบไปแก้บนตามที่เคยพูดไว้ เมื่อเธอกลับไปพร้อมพวงมาลัย 99 พวง และรำหน้าช้างตามที่สัญญาไว้ เธอฝันอีกครั้ง คราวนี้ช้างยิ้มให้ และหลังจากนั้นปัญหาชีวิตก็คลี่คลาย
.
การแก้บนจึงไม่ใช่แค่การตอบแทน แต่เป็นการรักษาสัจจะที่ให้ไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบและศรัทธาที่แท้จริง