เมื่อเซ็กซ์ทอย กลายเป็นเครื่องมือแพทย์
เรื่องอื้อฉาวในอดีต ที่พูดไม่ได้
ย้อนกลับไปศตวรรษที่ 18 หนึ่งในหนังสือแพทย์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดชื่อว่า L’Onanisme
หมอสายศีลธรรมจากสวิตเซอร์แลนด์ Samuel Tissot เขายืนยันว่า “การช่วยตัวเอง”
เป็นภัยร้ายแรงที่ทำให้คนอ่อนแอ ทำให้เป็นบ้า และตายเร็ว
.
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความเห็นส่วนตัว แต่มันถูกใช้เป็น “ตำราแพทย์” จริงๆ ที่ถูกสอนในยุโรปและอเมริกานานกว่า 100 ปี และนี่คือประวัติศาสตร์ที่สังคมใช้ “ความกลัว” มากดเรื่องเพศ...ให้อยู่นอกการพูดคุยของมนุษย์
.
เซ็กซ์ในยุควิคตอเรียน ไม่มี Google แต่มี ‘คู่มือช่วยตัวเอง’ จากแพทย์ ในศตวรรษที่ 19 อังกฤษเข้าสู่ยุค “วิคตอเรียน” ภายใต้รัชสมัยของควีนวิกตอเรีย (Victorian Era) ในอังกฤษ (1837–1901) สังคมเปลี่ยนไปอย่างเคร่งขรึมและจารีต ทุกอย่างดูเรียบร้อย ผู้หญิงต้องเรียบร้อย ผู้ชายต้องอดทน…
.
แต่ความจริงใต้กระโปรงสุภาพสตรีกับเบื้องหลังผ้าปิดตาผู้ดีอังกฤษ กลับเต็มไปด้วย "แรงอัด" ทางเพศที่พูดไม่ได้ แต่ระเบิดอยู่เงียบๆสังคมที่ห้ามพูดเรื่องเซ็กซ์ = สังคมที่หมกมุ่นกับมัน การช่วยตัวเอง ถูกมองว่าเป็น “โรคร้าย” ที่จะทำให้คนบ้าหรืออ่อนแอ
.
แพทย์ยุควิคตอเรียนหลายคนเขียนหนังสือแนะนำการ “เลิกช่วยตัวเอง” อย่างจริงจัง
เช่น: "Solitary Vice" โดย Samuel Tissot (1728–1797) เป็นแพทย์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ผู้มีชื่อเสียงในยุคศตวรรษที่ 18
.
โดยเฉพาะจากผลงานของเขาที่ชื่อว่า "L’Onanisme" เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาและพฤติกรรม ได้รับการยอมรับในหมู่ชนชั้นสูงยุโรปในช่วงเวลานั้น Tissot อ้างว่า “การช่วยตัวเอง” เป็นพฤติกรรมที่มี ผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ อย่างร้ายแรง เช่นทำให้สายตาเสีย,ความจำเสื่อม,ร่างกายอ่อนแอ,บ้า หรือวิกลจริตนำไปสู่ความตาย
.
เขายังอ้างกรณีศึกษา (case study) ของผู้ชายที่ช่วยตัวเองมากเกินไปจน “เสียชีวิต” และแนะนำวิธีป้องกันพฤติกรรมนี้ เช่น การควบคุมจินตนาการ / การแต่งงาน / ออกกำลังกาย
แต่ขณะเดียวกัน แพทย์บางคนกลับ แอบใช้การกระตุ้นทางเพศเพื่อรักษาอาการ “ฮิสทีเรีย” ในผู้หญิง ซึ่งเชื่อกันว่าเกิดจากความเครียด... และ "ความต้องการทางเพศที่ถูกกดทับ"
.
นี่คือจุดกำเนิดของ เครื่องสั่น (vibrator) ทางการแพทย์ชิ้นแรก ๆ ของโลก "ฮิสทีเรีย" หรือ... แค่ผู้หญิงอยากมีเซ็กซ์? ผู้หญิงในยุคนั้นต้องแต่งงานเพื่อมีลูกเท่านั้น พูดเรื่องเซ็กซ์ = หญิงไม่ดี
แต่ถ้าผู้หญิง “ซึมเศร้า / โมโหง่าย / อารมณ์แปรปรวน” แพทย์ก็จะวินิจฉัยว่าเป็น “ฮิสทีเรีย”
.
แล้วทางรักษาก็คือการ “นวดอวัยวะเพศหญิง” เพื่อให้ถึงจุดสุดยอด แน่นอนว่าผู้หญิงยุคนั้นไม่รู้ว่า นี่คืออะไรแต่รู้แค่ว่า “ไปรักษาแล้วดีขึ้น” ความย้อนแย้งจึงเกิดขึ้นแบบสุดโต่ง
สังคมที่ห้ามพูดเรื่องเซ็กซ์ กลับแอบใช้เซ็กซ์เป็น “ยา” สังคมที่บอกว่าเซ็กซ์เป็นของผู้ชาย กลับยอมรับว่าเซ็กซ์ช่วยผู้หญิง "หายบ้า"
.
บางครั้งการกดเรื่องเพศให้เงียบ อาจไม่ได้ทำให้มัน “หายไป” แต่มันเพียงผลักเข้าไปอยู่ในห้องลับ ระหว่างคำว่า “รักษา” กับ “บำบัดความผิดปกติ” และเมื่อสังคมไม่ยอมให้พูดเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาเครื่องมืออย่าง “คู่มือช่วยตัวเอง” จึงเกิดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
.
ไม่ใช่เพราะคนไม่อยากรู้ แต่เพราะไม่มีใครกล้าถาม... ในที่สว่าง
มีหลักฐานและงานวิจัยรองรับชัดเจนครับว่า "การนวดกระตุ้นอวัยวะเพศหญิงเพื่อรักษาอาการฮิสทีเรีย" นั้นเกิดขึ้นจริงในยุควิคตอเรียน และถือเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นของการประดิษฐ์ เครื่องสั่น (vibrator) ทางการแพทย์ “รักษาฮิสทีเรียด้วยการช่วยผู้หญิงถึงจุดสุดยอด” ในยุคที่ผู้หญิงไม่มีสิทธิในร่างกายตัวเอง ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 – ตรงกับ ยุควิคตอเรียน (Victorian Era) ในอังกฤษ (1837–1901) และแนวคิดนี้ก็แพร่ไปยังแพทย์ฝั่งอเมริกาและยุโรปในเวลาต่อมา
.
หลักฐาน & งานวิจัย
Rachel P. Maines – หนังสือ The Technology of Orgasm (1998) นักวิจัยจาก Cornell University เธอเป็นคนแรก ๆ ที่ตีแผ่ประวัติศาสตร์ของ "การรักษาฮิสทีเรีย" ด้วยการนวดอวัยวะเพศหญิงโดยแพทย์ชาย เธอยืนยันว่า เครื่องสั่นไฟฟ้าเครื่องแรก (vibrator) ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อช่วยลด "ภาระงาน" ของแพทย์ ที่ต้องใช้มือนวดนานหลายชั่วโมงต่อคน
.
อาการ "ฮิสทีเรีย" ถูกระบุในตำราแพทย์ ศตวรรษที่ 19 อาการ "hysteria" ถูกระบุว่าเป็นโรคของผู้หญิง ซึ่งอาจมีอาการ อารมณ์แปรปรวน เหนื่อยง่าย ความต้องการทางเพศสูงเกินควบคุม (ถูกมองว่า “ป่วย”) โดยเฉพาะผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานหรือแต่งงานแล้วไม่มีเพศสัมพันธ์
Vibrator ตัวแรก ใช้ในโรงพยาบาล ปี 1880: แพทย์ชาวอังกฤษชื่อ Joseph Mortimer Granville คิดค้นเครื่องสั่นไฟฟ้าขึ้น (ชื่อว่า “Granville's Hammer”) จุดประสงค์ ไม่ใช่เพื่อความสุขทางเพศ แต่เพื่อให้แพทย์ใช้แทนการนวดมือ ซึ่งใช้เวลานานและเหนื่อยมากในตอนแรกถูกใช้ในคลินิก ต่อมาจึงแพร่ไปยังตลาดของผู้หญิงชนชั้นกลาง (อย่างลับ ๆ)
อ้างอิง:Lieberman, A. (2008). Vibrator Nation: How Feminist Sex-Toy Stores Changed the Business of Pleasure.Maines, R. (1998)
.
แม้ว่างานของ Maines จะได้รับการยอมรับในวงกว้าง แต่ในช่วงหลังมีนักประวัติศาสตร์บางส่วนโต้แย้งว่า หลักฐานที่ระบุว่าแพทย์ “ทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดจริง ๆ” นั้นยังขาดบันทึกตรงจากแพทย์ การใช้งานเครื่องสั่นอาจถูกใช้เพื่อ "ลดแรงตึงกล้ามเนื้อ" มากกว่าเรื่องเพศ แต่นักวิชาการส่วนใหญ่ยอมรับว่า เครื่องสั่นถูกผลิตในยุคนั้นเพื่อตอบสนองต่อ "การรักษาอาการฮิสทีเรีย"
บริบทของการควบคุมเพศหญิง ผ่านการแพทย์และศีลธรรม คือประเด็นสำคัญที่ซ่อนอยู่
.
ยุคที่ผู้หญิงพูดเรื่องเซ็กซ์ไม่ได้ แต่แพทย์ชายทำให้ “หายบ้า” ด้วยวิธีที่ใกล้เคียงกับเซ็กซ์มากที่สุด เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในยุควิคตอเรียน พร้อมการประดิษฐ์เครื่องสั่นเพื่อช่วยรักษาอาการฮิสทีเรียในผู้หญิง และนี่ไม่ใช่เรื่องของ “ความสุข” แต่คือเรื่องของ “การควบคุม”
.
เพราะ Socool สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ทุกคนหล่ะมีความคิเห็นกับเรื่องนี้ยังไง
มาแชร์กัน