หากมองโลกใบนี้เหมือนกับเกมหนึ่งเกม เรากำลังเผชิญกับความท้าทายที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและอุปสรรคต่างๆ แต่ละคนเหมือนเป็นตัวละครในเกมนี้ ทำหน้าที่ของตัวเอง มีเป้าหมายที่แตกต่างกันไป แต่ทุกคนก็อยู่ในเงื่อนไขเดียวกันคือ เรากำลังเล่นเกมชีวิต
.
กฎสำคัญของเกมนี้ที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามคือ “กฎแห่งกรรม” ไม่ว่าจะทำดีหรือทำไม่ดี สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่สะสมไว้ และจะส่งผลกลับมาในชีวิต หากเปรียบชีวิตเป็นเกม ก็เหมือนกับการเก็บคะแนน ถ้าเราทำดี เราก็จะได้ "คะแนนดี" ที่ช่วยให้เราก้าวหน้าขึ้นในชีวิต แต่ถ้าทำไม่ดี กรรมจะส่งผลให้ชีวิตของเราย่ำแย่ลง
.
Elon Musk เจ้าพ่อเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้งบริษัทนวัตกรรมหลายแห่งอย่าง Tesla และ SpaceX ได้เคยพูดถึงแนวคิดเกี่ยวกับ "โลกจำลอง" หรือ simulation theory ซึ่งเป็นทฤษฎีที่บอกว่าโลกและจักรวาลรอบตัวเราอาจเป็นการจำลองเสมือนจริง โดย Musk เชื่อว่ามีโอกาสสูงที่พวกเราอาจกำลังอยู่ในสิ่งจำลอง โดยเขาได้ระบุว่า "มีโอกาสหนึ่งต่อหนึ่งพันล้าน" ที่โลกของเราจะไม่ใช่การจำลอง แต่เป็นความจริงที่แท้จริง
.
เขาอ้างว่า หากพิจารณาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีโดยเฉพาะด้านปัญญาประดิษฐ์และการจำลองเสมือน จะเห็นว่ามนุษย์สามารถสร้างโลกเสมือนจริงที่ซับซ้อนขึ้นได้เรื่อยๆ ถ้าเราสามารถสร้างการจำลองที่ซับซ้อนได้ขนาดนี้ ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่าโลกของเราเองก็อาจจะเป็นการจำลองจากสิ่งที่ซับซ้อนกว่า
.
Musk จึงได้รับฉายาว่าเป็น "Tony Stark ตัวจริง" จากตัวละครในภาพยนตร์ Marvel ที่เป็นนักประดิษฐ์อัจฉริยะผู้ใช้เทคโนโลยีเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก เหมือนกับสิ่งที่ Musk กำลังทำในชีวิตจริง
.
สิ่งที่ Elon Musk กล่าวถึงเรื่องโอกาสที่เราจะอยู่ในโลกจำลอง สอดคล้องกับแนวคิดในทางพุทธศาสนาในหลายแง่มุม โดยเฉพาะหลักการที่สอนเรื่อง การเวียนว่ายตายเกิด (สังสารวัฏ) และการ หลุดพ้น (นิพพาน)
.
ในทางพุทธศาสนา มองว่าชีวิตและโลกที่เราเห็นเป็นเพียง มายา หรือสิ่งสมมติ ซึ่งไม่ใช่ความจริงแท้ ทุกสิ่งในโลกนี้เปลี่ยนแปลงและไม่จีรัง ชีวิตในโลกนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวงจรการเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย ที่เรียกว่า "สังสารวัฏ" ซึ่งเป็นการเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ
.
ในท้ายที่สุด หากชีวิตเป็นเกมหนึ่ง สิ่งที่เราต้องทำเพื่อเอาชนะเกมนี้ไม่ใช่การสะสมความมั่งคั่งหรือชื่อเสียง แต่เป็นการทำความดี สะสมบุญ และทำให้จิตใจสงบจนหลุดพ้นจากกิเลส