HOME
 
 
CONTACT
  TODAY'S TOPIC  
 

เพราะ LOCKDOWN จึง (MENTAL) BREAKDOWN:
เมื่อโควิดทำสภาพจิตอ่อนแอ

 
  24/07/2021  
 

เมื่อสถานการณ์ “โควิด-19” ในประเทศไทยร้ายแรงมากขึ้นทุกวัน ทำให้รัฐบาลต้องประกาศล็อกดาวน์กรุงเทพฯ และปริมณฑล 6 จังหวัด และยกระดับมาตรการควบคุมโรครวม 10 จังหวัดที่มีการระบาดรุนแรงของโควิด-19 มีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค. รวมทั้งมีมติเห็นชอบให้ขยายการประกาศใช้ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีก 2 เดือนไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564
การระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ใช่แค่วิกฤตการณ์ด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้เกิดวิกฤตการณ์ทางสุขภาพจิต(mental health)ได้เช่นกัน ด้วยเศรษฐกิจที่ตกต่ำ รวมถึงการประกาศล็อคดาวน์ ส่งผลให้มีคนตกงานและอดอยากปากแห้งมากขึ้น อีกทั้งสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้มีแต่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน สิ่งเหล่านี้มีแต่คอยบั่นทอน และไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพจิตเอาเสียเลย

 
   
   
 

กรมสุขภาพจิต เผยพบคนไทยอยู่ในภาวะเครียด อ่อนล้า และหมดหวังเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากปัญหาการว่างงานของคนไทยจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงทีผ่านมา เป็นแผลเรื้อรังที่ยังรักษาไม่หาย และคอยกัดกร่อนสุขภาพจิตของคนที่ต้องกักตัวอยู่บ้านให้แย่ลงไปทุกที ยิ่งการระบาดของโควิด-19 ที่ร้ายแรงขึ้นทุกวัน ทำให้ธุรกิจเล็กใหญ่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด และส่งผลโดยตรงต่อภาวะจิตใจที่บอบช้ำอยู่แล้วของประชาชน ทั้งความเครียด ความกังวล รวมไปถึงความหมดหวังและรู้สึกอ่อนล้า ทำให้อัตราการเกิดโรคซึมเศร้าของคนไทยสูงขึ้นอย่างมาก และผู้คนบางส่วนมีแนวโน้มในการฆ่าตัวตายสูง หากเป็นไปได้คุณควรคอยสังเกตคนใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวด้วยว่ามีสุขภาพจิตแย่ลงหรือไม่

 
  ลองมาเช็คกัน ว่าในช่วงล็อคดาวน์คุณหรือคนใกล้ตัวกำลังมีสุขภาพจิตที่แย่ลงหรือไม่  
 

ถ้าหากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เคยชอบทำหรืออยากทำ ขาดความมั่นใจที่เคยมี ขี้หลงขี้ลืม รู้สึกว่าชีวิตไม่มีความสุข สิ้นหวังกับทุกสิ่งอย่าง คิดว่าไม่มีทางที่อะไร ๆ จะดีขึ้น ไม่ดูแลตัวเองเหมือนเคย และบางครั้งก็มีอาการทางกายร่วมด้วย เช่น กินได้น้อยลงหรือมากกว่าเดิมอย่างผิดปกติ นอนไม่หลับ สะดุ้งตื่นตอนกลางดึกอยู่บ่อยครั้ง ปวดหัว หรือปวดท้อง หากเป็นเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งแสดงว่าสุขภาพจิตของคุณ และคนใกล้ตัวกำลังมีปัญหาอย่างแน่นอน
แต่ความเครียดก็เป็นกลไกโดยธรรมชาติที่ช่วยให้มนุษย์เตรียมตัว วางแผน และรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความเครียด วิตกกังวล และตื่นตระหนก ที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องผิดปกติ หากแต่เป็นสิ่งที่กลไกร่างกายตอบสนอง เพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือในการเยียวยาทางด้านจิตใจและสุขภาพจิตอย่างเร่งด่วน ซึ่งบางครั้งความเครียดอาจเป็นเพียงภาวะชั่วคราว ไม่เข้าข่ายอาการของโรคซึมเศร้า หรือต้องได้รับการรักษาจากจิตแพทย์ หากคุณมีอาการข้างต้นเพียงเล็กน้อย และหายไปใน 1-2 สัปดาห์ เป็นไปได้ว่าอาจเป็นเพียงภาวะชั่วคราวที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และจะหายได้เองเมื่อได้พักผ่อนเต็มที่และได้ทำกิจกรรมที่คลายเครียด

 
 

อย่างไรก็ตาม หากคุณหรือคนใกล้ชิดเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มผู้ป่วย หรือสงสัยว่าจะป่วยอยู่ก่อนนี้ ควรพบจิตแพทย์เพื่อประเมินและรักษาอย่างเหมาะสม หรือหากมีนัดสม่ำเสมอก็ไม่ควรหยุดพบแพทย์ เพราะอาจนำไปสู่อาการรุนแรง และเป็นอันตรายได้ ซึ่งปัจจุบันมีการให้บริการการรักษาทางไกล (E – Mental Health) ทำให้สะดวกมากขึ้น

 
           
Copyright © 2021 SOCOOL LIMITED. All right reserved.