รู้หรือไม่ว่าทุกวันนี้ประเทศไทยเรามีวัคซีน
#พิษสุนัขบ้า ฉีดเพราะว่ามี 'เจ้า' ถูกหมาบ้ากัดตายมาก่อน วันนี้เราจึงจะมาเล่าความเป็นมาเกี่ยวกับ 'หญิงเภา' หมาบ้า และ สถานปลาสเตอร์
.
ในประเทศสยามแต่ก่อนนั้นพอฤดูร้อน ก็มักจะมีคนถูกหมาบ้ากัดตายมากมาย ถ้าเป็นไพร่ถูกกัด ก็ใช้ยาสมุนไพร รอดบ้างตายบ้าง แต่ส่วนมากจะตายมากกว่ารอด แต่ถ้าเป็นผู้ดีมีเงิน ก็มักจะส่งตัวไปรักษาที่ต่างประเทศ จนกระทั่ง “หญิงเภา” ถูกหมาบ้ากัด
.
หญิงเภา(หม่อมเจ้าบันลุศิริศานต์ ดิศกุล) ลูกกรมดำรงฯ ถูกหมาบ้ากัด “เพอินเธอล้มและขายื่นไปทางหมา มันก็ตรงเข้ามางับเป็นแผลลึก..(ร.6)ทรงทราบเรื่องราวก็แนะนำเสด็จพ่อ(กรมดำรงฯ)ให้ส่งไปรักษาที่ฮ่องกง..เพอินเรือออกไปเสียแล้ววันนั้น”
.
ต่อมาได้รับรายงานว่า “หมาตัวนั้นบ้าจริงๆ” อยู่มาวันหนึ่ง “หญิงเภาเกิดปวดหัวตัวรุ่มเหมือนจะเป็นไข้ขึ้นมา..หมอมาถึงก็ตรวจ..แล้วเรียกน้ำใส่ถ้วยแก้วมาให้กิน..(หญิงเภา)พอเห็นน้ำเข้า(ก็)สะดุ้ง เธอพยายามจะกินแต่ก็กินไม่ได้ บอกแต่ว่ากลัวอย่างอธิบายไม่ถูก”
.
หมอบอกกรมดำรงฯว่า “อยู่ได้อีก 24 ชม. พอเธอตาย..มาถึงเห็นแต่ศพนอนตายสีเขียวทั้งตัว และที่ตรงแผลหมากัดไว้เขียวจนดำ..เป็นเหตุให้เสด็จพ่อพยายามเรี่ยรายทำสถานปาร์สเตอร์..ต่อมาก็เกือบจะไม่มีใครต้องตายเพราะหมาบ้าอีก จึงควรนับว่าหญิงเภาได้ตายไปเพื่อช่วยชีวิตคนไว้เป็นอันมาก”
.
ในปี 2456 สถานปาร์สเตอร์ก็ถูกสร้างจนสำเร็จ ซึ่งทำการผลิตและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็นสถานเสาวภา
.
หญิงเภาตาย จึงได้ช่วยชีวิตคนไว้เป็นจำนวนมาก แต่ถ้าหญิงเภาไม่ตาย ประเทศสยามจะมีวัคซีนใช้เมื่อไหร่ ในสมัยนั้นเลือดไพร่นี้มันไร้ค่าจริง ๆ
_____________________
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ประวัติศาสตร์แนวเอียง
หนังสือพระราชวงศ์จักรี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6(สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็นในรัชกาลที่ 6) เขียนโดย ม.จ. พูนพิศมัย ดิศกุล
