โดยกฎหมายห้ามฉลองคริสต์มาส เกิดขึ้นในปี 1644 โดยมีข้อห้ามมากมาย ดังนี้ ห้ามดื่มสุรา ห้ามการเต้นรำและร้องเพลงเฉลิมฉลอง ห้ามทำอาหารเมนูที่สอดคล้องกับวันคริสต์มาส ห้ามทำพิธีในโบสถ์ของศาสนาคริสต์ แม้แต่บังคับให้ร้านค้าต่างๆ ต้องเปิดทำการในวันคริสต์มาส เพราะต้องการให้เป็นเพียงวันธรรมดาวันหนึ่ง
.
เนื่องจากวันคริสต์มาส เป็นการเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู แต่ในพระคัมภีร์ไบเบิลไม่ได้กำหนดไว้ว่าป็นวันที่ 25 ธันวาคม เลยทำให้รัฐสภาพิวริทันของ โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ออกกฎหมายห้ามฉลองคริสต์มาสนี้ขึ้นมา
.
เพราะเขาเชื่อว่าการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาส ทำให้มีแต่คนมึนเมา และเปลืองทรัพยากรอาหาร โดยการฉลองคริสต์มาสในประเทศอังกฤษพวกเขากำหนดให้สามารถจัดได้เป็นเวลา 12 วันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ทำกันมาตั้งแต่ยุคกลาง และมีคำขวัญว่า “เล่นสนุกตลอดวัน เต้นรำตลอดคืน”
.
โดยหลังจากที่โอลิเวอร์ ได้ออกกฎหมายนี้ ทำให้ประชาชนชาวอังกฤษไม่พอใจ และทำการออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องให้กลับมาฉลองคริสต์มาสเหมือนเดิม และการห้ามฉลองคริสต์มาส ยิ่งทำให้เทศกาลนี้เกิดความนิยมมากขึ้นด้วยซ้ำ
.
จนถึงยุคฟื้นฟูราชวงศ์ในปี 1660 พระเจ้าชาร์ลที่ 2 ได้รับอำนาจคืนและทำให้มีการยกเลิก “กฎหมายห้ามฉลองวันคริสต์มาส” จึงทำให้วันคริสต์มาสกลับมาเป็นเครื่องหมายของศาสนาคริสต์อีกครั้ง
.