จากประเด็นล่าสุดที่ อีลอน มัสก์ บอกว่าปูตินรวยกว่าเขาเยอะ บางคนอาจสงสัยว่าปูตินแท้จริงแล้วรวยแค่ไหนและรวยกว่าอีลอนจริงไหม แต่หารู้ไม่ว่าคนที่รวยสุดในโลกไม่ใช่ทั้ง อีลอน มัสก์ และ วลาดีมีร์ ปูตินหรือแม้กระทั่ง เจฟฟ์ เบโซส์เจ้าของ Amazon แต่จริง ๆ แล้วคือตระกูล รอธไชล์ด (Rothschild) ที่ร่ำรวย และมั่งคั่งที่สุดในโลกแต่ว่าคนส่วนมากจะไม่รู้จัก
ความร่ำรวยของตระกูล รอธไชล์ด คือรวยกว่าอีลอนถึง 10 เท่า ซึ่งในปี 2016 Oxfam International องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ได้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินของตระกูล รอธไชล์ด ว่ามีมูลค่าอยู่ราว ๆ 1,000,000,000,000 เหรียญสหรัฐฯ(ซึ่งในปัจจุบันมูลค่าเยอะกว่าเมื่อปี 2016 หลายเท่า) หากเอาทรัพย์สินของมหาเศรษฐี 8 อันดับแรกของโลกมารวมกันจะเทียบได้เพียงแค่ 1 ใน 5 ของทรัพย์สินตระกูล รอธไชล์ด เท่านั้น
ตอนนี้ทุกคนที่กำลังอ่านอยู่คงกำลังสงสัยกันแล้วว่าตระกูลนี้ทำอะไร ทำไมถึงมีทรัพย์สมบัติมากมายขนาดนั้น วันนี้ Socool.limited จะพาไปทำความรู้จักกับตระกูลมหาเศรษฐีที่แสนจะมั่งคั่งนี้กัน
ตระกูลนี้ทำธุรกิจแทบจะทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น อสังหาริมทรัพย์, พลังงาน, เหมือง, ไวน์ แต่ธุรกิจที่เด่น ๆ ก็จะเป็นเกี่ยวกับด้านการเงิน มีทั้งธนาคารและบริการทางการเงินแบบครบวงจร ซึ่งเป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่มากในยุโรปอีกทั้งยังลามไปทั่วโลกอีกด้วย
จุดเริ่มต้นของตระกูลนี้อยู่ที่ยุคกลางของยุโรป เมื่อปี ค.ศ. 1744 ตระกูล รอธไชล์ด ได้กำเนิดลูกชายคนหนึ่งชื่อ ไมเออร์ อัมเอ็มเช็มเชล รอธไชล์ด ซึ่งคน ๆ นี้เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตระกูล รอธไชล์ด ขึ้นมาร่ำรวยที่สุดในโลก พ่อของ ไมเออร์ เป็นพ่อค้าแลกเปลี่ยนเงิน ขายเหรียญหายากและเหรียญสะสม ซึ่งในยุคนั้นการสะสมเหรียญหายากเป็นการสะสมศิลปะของคนชนชั้นสูง
ที่สำคัญก็คือ พ่อของ ไมเออร์ ขายเหรียญให้คนชนชั้นสูงเยอะมาก ซึ่งจุดผกผันอยู่ตรงที่ได้ขายเหรียญให้กับ พระเจ้าฟรีดริช วิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งปรัสเซีย เลยทำให้ตระกูล รอธไชล์ด มีเส้นสายกับคนชนชั้นสูงมากขึ้น ดังนั้นพอไมเออร์เริ่มโตเขาก็ได้ไปฝึกงานที่ธนาคาร Hanover ประเทศเยอรมัน ทำให้เขามีความรู้และทรัพย์สินมากมาย พอฝึกงานเขาก็กลับมาที่แฟรงก์เฟิร์ตเพื่อเปิดธนาคาร ทำให้เขาได้วนกลับมาเจอพระเจ้าฟรีดริชอีกครั้ง
ซึ่งพระเจ้าฟรีดริชได้แต่งตั้งให้ไมเออร์เป็นผู้ดูแลการเงินทั้งหมด จุดพลิกผันก็คือ ในปี 1785 พระเจ้าฟรีดริซ ไม่ได้เป็นเจ้าชายแล้ว แต่ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ “Wilhelm IX of Hesse” ไมเออร์เลยถูกแต่งตั้งเป็นนายธนาคารแห่งราชวงศ์ นายธนาคารยุคนั้นทำทุกอย่างตั้งแต่เก็บภาษี ปล่อยเงินกู้ การคลัง
ไมเออร์คิดใหญ่กว่านั้นเขา ตั้งใจจะขยายกิจการไปทั่วยุโรป เลยส่งลูกทั้ง 5 คน ไปทำธุรกิจตามประเทศต่าง ๆ 5 คนไปอยู่ 5 เมือง 5 ประเทศ ส่ง นาธาน เมเยอร์ รอธไชล์ดไปลอนดอนไปก่อตั้งธนาคารแห่งแรกคือ NM Rothschild and Son ส่วนคนที่เหลือส่งไป ปารีส, เวียนนา, นาโปลี
ซึ่ง NM Rothschild and Son ที่ส่งนาธานไปก่อตั้ง สุดท้ายกลายเป็นธนาคารที่ใหญ่สุดในยุโรป เป็นศูนย์กลางการเงินของทั้งยุโรป เพราะเป็นธนาคารแรกที่สามารถทำธุรกรรมข้ามประเทศได้ เลยทำให้ความร่ำรวย และอิทธิพลของรอธไชล์ดยิ่งใหญ่ขึ้น กลยุทธ์สำคัญ คือการที่ให้คนในประเทศต่าง ๆ มากู้เงินก่อน หลังจากนั้นจึงเก็บรายได้และดอกเบี้ยอีกทีนึง
เขาปล่อยกู้ให้ทั้ง ราชวงศ์ กษัตริย์ ขุนนาง รวมไปถึงประเทศต่าง ๆ เรียกได้ว่า ตระกูลรอธไชล์ดเป็นเจ้าหนี้ของทั้งยุโรป ในช่วงสงครามนโปเลียน แต่ว่ารอธไชล์ดไม่เลือกข้างปล่อยเงินให้กู้ทั้ง 2 ฝั่ง ก็คือหากฝั่งไหนชนะพวกเขาก็ได้เงินอยู่ดี
ซึ่งตอนนั้นฝรั่งเศสได้เปรียบ ฝั่งอังกฤษเลยขอกู้เงินเพิ่ม ทางด้านตระกูลรอธไชล์ดก็ให้กู้ พออังกฤษชนะเลยรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณตระกูลรอธไชล์ดเป็นอย่างมาก เลยแต่งตั้งตระกูลรอธไชล์ดเป็นคณบดี ทำให้อาณาจักรรอธไชล์ดขยายใหญ่โตมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงช่วงปฏิวัติฝรั่งเศษ ตระกูลรอธไชล์ดยิ่งใหญ่มากขนาดที่ว่าปล่อยให้กู้เงินที่เปรียบเหมือน IMF ได้
ศตวรรษที่19 เริ่มปล่อยกู้กับเอกชน ซื้อกิจการขยายกิจการ, ปี 1868 ไปซื้อโรงงานไวน์ที่มีมูลค่ามากสุดในฝรั่งเศษ, ปี 1875 ให้อียิปต์กู้เงินเพื่อสร้างคลองสุเอซเพื่อเชื่อมระหว่าง ยุโรปกับเอเชีย, ให้บราซิลกู้เงินเพื่อซื้อเอกราชจากโปรตุเกส, ให้รัฐบาลญี่ปุ่นกู้เงินเพื่อสู้สงครามกับรัสเซีย สุดท้ายแล้วข้อมูลที่เราได้นำเสนอไปทั้งหมดคือ การสรุปแบบย่อ ซึ่งตระกูลนี้อาจจะมีธุรกิจเยอะมากกว่านี้ก็เป็นได้
หลายคนคงสงสัยว่ารวยขนาดนี้ทำไมเวลาจัดอันดับถึงไม่ติดอันดับ The real time billionaires list กับ Forbes รวมไปถึงที่อื่นเลย ว่ากันว่าตระกูลนี้มีนโยบายไม่เปิดเผยมูลค่าของตระกูล คงไม่มีใครฟันธงได้ว่าเขารวยแค่ไหนแต่ที่แน่ ๆ หากดูจากข้อมูลที่เรานำเสนอไปข้างบนจะเห็นได้ว่าธุรกิจของตระกูลนี้มีมากมายและร่ำรวยจนเกินกว่าที่เราจะคาดถึง
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.mensxp.com/special-features/features/91417-rothschild-family-richest-in-the-world-conspiracy-theories.html
https://www.youtube.com/watch?v=gzQaVRmZN-Q |
