ลูกเสือกัมมันตรังสี การทดลองสร้าง
เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขึ้นมาเอง

วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องราวของ เด็กชายผู้หลงใหลในเคมีและวิทยาศาสตร์ ซึ่งฟังแล้วก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องดี แต่เขาได้ทำการทดลองสารเคมีมากมายเพื่อความบันเทิง จนถึงการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขึ้นมาเอง นั่นทำให้เรื่องราวเด็กชายคนนี้ต้องพบกับจุดจบที่หลายคนคาดไม่ถึง

ในปี 1995 มีลูกเสือวัยรุ่นที่อยู่ในรัฐมิชิแกนชื่อเดวิด ฮาน เขาดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเขตชิคาโกในเมืองดีทรอยต์เป็นอย่างมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่พบวัตถุที่น่าสงสัยในรถของเขา แต่การสอบสวนเพิ่มเติมเปิดเผยว่าเด็กชายวัยรุ่นคนนี้ได้ทำการทดลองวิทยาศาสตร์ในสวนหลังบ้านหลายครั้ง รวมถึงพยายามสร้างเครื่องกำเนิดพลังงานนิวเคลียร์ในช่วงเวลานั้นอีกด้วย

เดวิดสามารถสร้างแหล่งเนื้อธาตุนิวตรอนไซต์แบบโฮมเมดได้อย่างสำเร็จด้วยวัตถุดิบบ้าน ๆ ที่เขามีอยู่ในมือ ในกระท่อมขนาดเล็กในสวนหลังบ้านทั่วไป และเกือบจะทำให้เขตบ้านของเขารวมถึงเพื่อนบ้านโดนรังสีกันทั้งหมด

เดวิดมีความหลงใหลต่อวิทยาศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก ๆ และด้วยความที่เขาเป็นเด็กอัจฉริยะ เมื่อตอนเขาอายุได้ 10 ปี เขาเริ่มเรียนเคมี และทำให้เขาสามารถสร้างไนโตรกลีเซอรินได้ในอายุ 14 ปี อีกทั้งในช่วงอายุนั้นเขายังได้รับเหรียญตราลูกเสือ Atomic Energy Merit Badge (สำหรับผู้ที่ทรงความรู้ด้านวิทยาศาสตร์พลังงาน) ด้วยการสร้างแบบจำลองเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้สำเร็จ และเขียนเอกสารเกี่ยวกับปฏิกิริยาฟิชชัน และพลังงานนิวเคลียร์ นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่เดวิดคิดอะไรแผลง ๆ ขึ้นมาได้

หลังจากนั้นเขาจึงมีความคิดที่จะสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขึ้นมา ก่อนการพยายามสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เมื่อเขาอายุเพียง 17 ปีตามบันทึกของ FBI การทดลองนี้ถูกดำเนินการในสวนหลังบ้านอย่างลับ ๆ

เดวิดมักทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในห้องนอนของเขาอยู่เป็นประจำ แม่กับพ่อเลี้ยงของเดวิดมักจะได้ยินเสียงระเบิดเล็ก ๆ อยู่บ่อยครั้ง จึงเปลี่ยนให้เดวิดไปทำการทดลองในห้องใต้ดินแทน แต่ เขาบังเอิญทำห้องทดลองใต้ดินของตัวเองระเบิด จนส่งผลให้บ้านของเขาไฟไหม้ ส่วนเดวิดได้รับบาดเจ็บจากการที่เศษแก้วเข้าตา มือได้รับบาดเจ็บ จนต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล

ถ้าเป็นครอบครัวอื่น พ่อแม่ผู้ปกครองคงห้ามลูกไม่ให้เล่นทดลองอะไรอีกแน่นอน แต่สำหรับแม่ของเดวิดตัดสินใจที่จะให้เดวิดย้ายการทดลองของเขาไปนอกบ้าน และโรงนาเล็กๆ ที่สนามหลังบ้านก็ดูเหมือนจะเป็นที่ ๆ เหมาะสมที่สุด

เดวิดสามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เขาต้องการได้ด้วยการแกล้งปลอมตัวเป็นอาจารย์สอนฟิสิกส์ ติดต่อและเขียนจดหมายไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ด้านกำกับความปลอดภัยการใช้พลังงานนิวเคลียร์ เพื่อล้วงข้อมูลวิธีการสร้างส่วนประกอบต่าง ๆ ของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ทั้งจากหน่วยงานรัฐบาลและเอกชน รวมไปสิ่งของต่างๆ ด้วยการปลอมเป็นอาจารย์อีกด้วย

เขาอ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำสารเคมีอย่างมุ่งมานะ เรียนรู้วิธีการปรับเปลี่ยนปฏิกิริยาด้วยตนเอง นอกจากนี้ เขายังเสริมสร้างความรู้ด้วยการเรียนหนังสือในห้องสมุดท้องถิ่นของเขามานานอย่างเป็นประจำ

นอกจากเขาจะหลอกถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว เขายังใช้เงินไปมากกว่า 1,000 เหรียญ (ราว ๆ 3 หมื่นกว่าบาท)ไปเสาะหาวัตถุดิบมาทำเองได้อีก เช่น ซื้อแบตเตอรีที่เขาสามารถบรรจุลิเธียม, ซื้อนาฬิกาที่เรืองแสงในที่มืด(นาฬิกาโบราณจะมีเรเดียมปนเปื้อนเนื่องจากคนสมัยก่อนเอามาทาหน้าปัดให้เรืองแสง ไม่รู้ว่ามันอันตรายมาก) และตะเกียงแคมป์จากยุค 50 ซึ่งของทั้ง 2 อย่างนี้มีแร่เรเดียมอยู่ข้างใน นอกจากนั้นยังสั่งแร่ยูเรเนียมจากเช็กโกสโลวาเกีย

เขาประกอบสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกันจนเกิดเป็นเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของเขาได้สำเร็จ และมันก็สามารถใช้งานได้อีกด้วย แต่สุดท้ายถึงแม้ว่าเขาจะอัจฉริยะเพียงใด แต่ก็พลาดตรงที่ไม่คิดหน้าคิดหลังว่ามันอันตรายกับคนอื่น

หลังผ่านไปเพียงแค่สัปดาห์เดียว เครื่องไกเกอร์ เคาเตอร์ ที่ใช้วัดกัมมันตภาพรังสี ตรวจจับมันได้ในห้องนอนของเขา เดวิดเริ่มเป็นกังวลว่าเขาอาจทำให้คนอื่น ๆ ตกอยู่ในอันตรายไปด้วย และภายในระยะเวลาแค่เดือนเดียว เขาตรวจจับกัมมันตภาพรังสีได้จากบ้านที่ถัดออกไปจากบ้านเขาถึง 5 หลัง และนั่นทำให้เขาตัดสินใจปิดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของเขาทันที

ในเดือนสิงหาคม 1994 เดวิดตัดสินใจเคลื่อนย้ายเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใส่รถยนต์ของเขา แต่ด้วยความมีพิรุธ เพื่อนบ้านของเขาจึงโทรเรียกตำรวจ เพราะคิดว่าเดวิดกำลังขโมยยางรถ หลังจากตำรวจมาถึง เดวิดบอกตำรวจว่า อย่าเข้าใกล้รถของเขาเด็ดขาดเพราะมันมีกัมมันตภาพรังสี และเมื่อตำรวจได้ยินคำนี้ก็คิดไปถึงระเบิดปรมาณู ตำรวจจึงรวบตัวเดวิดและเรียกหน่วยกู้ระเบิดมาทันที โชคดีเป็นของตำรวจและคนอื่น ๆ เพราะภายในรถของเดวิดมีค่ากัมมันตภาพรังสีที่สูงกว่าระดับปกติถึง 1,000 เท่า

เมื่อเรื่องราวไปถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางต้องเข้ามาตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่ ส่วนเดวิดเองไม่ยอมเข้ารับการตรวจใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเกรงว่าจะพบความผิดปกติในร่างกายของเขา เดวิดตัดสินใจเข้าร่วมในกองทัพสหรัฐ และมีเป้าหมายที่จะทำงานในโครงการเกี่ยวเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แต่เรื่องตลกก็คือเขาไม่ถูกรับเข้าทำงาน ถึงแม้เขาจะเคยสร้างเครื่องนี้ขึ้นมากับมือก็ตาม

เดวิดใช้ชีวิตในกองทัพบกสหรัฐเป็นเวลา 4 ปีและย้ายไปอยู่กองทัพเรืออีก 3 ปี แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เดวิดจากโลกนี้ไปในปี 2016 จากภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ ถึงแม้จะมีข่าวลือและข้อสงสัยออกมาว่าอาจจะเกี่ยวกับการทดลองของเขาในอดีตหรือไม่

เรื่องราวของเดวิด สามารถเป็นบทเรียนให้เราได้ในหลาย ๆ เรื่อง เราไม่ได้บอกว่าเรื่องราวของพลังงานนิวเคลียร์เป็นสิ่งดีหรือไม่ดี แต่มุมมองที่อยากให้ทุกคนรับรู้ไว้ก็คือ พ่อแม่ควรมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้ของลูก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม เพราะไม่เช่นนั้นเรื่องราวอาจลุกลามใหญ่โตจนคาดไม่ถึงแบบนี้ก็เป็นได้

_____________________
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Petmaya
https://allthatsinteresting.com/david-hahn
https://www.dailymail.co.uk/.../Uh-oh-Radioactive-Boy...