เรื่องราวของ มานูเอล บลังโก โรมาแซนเต (Manuel Blanco Romasanta) ที่เป็นหนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของสเปน เขาเกิดในปี 1809 ที่แคว้นกาลิเซีย ประเทศสเปน และเป็นที่รู้จักในนาม “มนุษย์หมาป่าแห่งอัลลาริซ” (Werewolf of Allariz) เนื่องจากเขาอ้างว่าตัวเองถูกสาปให้กลายเป็นมนุษย์หมาป่า เรื่องราวของเขาเต็มไปด้วยความลึกลับ ความโหดร้าย และตำนานที่ยังคงถูกพูดถึงจนถึงทุกวันนี้
.
โรมาแซนเต์เริ่มต้นชีวิตในฐานะพ่อค้าเร่ขายสินค้าและยาสมุนไพร เขาเดินทางไปทั่วชนบทในแคว้นกาลิเซีย และมีชื่อเสียงในเรื่องความสามารถในการพาผู้คนเดินทางข้ามพรมแดนจากสเปนไปโปรตุเกสได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 1845 ผู้หญิงและเด็กหลายคนที่เดินทางไปกับเขากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ความสงสัยเริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อมีการพบศพของผู้หญิงหลายคนถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ร่างของพวกเธอถูกแยกชิ้นส่วน และบางส่วนถูกถลกหนัง
.
สิ่งที่ทำให้คดีนี้น่าขนลุกยิ่งขึ้นก็คือ มีหลักฐานว่าฆาตกรได้นำไขมันมนุษย์จากเหยื่อไปใช้ในการทำสบู่เพื่อขาย โรมาแซนเต์ยอมรับสารภาพว่าเขาเป็นผู้ลงมือสังหารเหยื่อถึง 9 ราย และอ้างว่าตนเองตกอยู่ภายใต้คำสาป ทำให้ต้องกลายเป็นมนุษย์หมาป่าในช่วงเวลาหนึ่งของทุกเดือน เขาอ้างว่าในช่วงที่กลายร่าง เขาจะออกล่าและฆ่าผู้คนโดยไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
.
ในระหว่างการพิจารณาคดี โรมาแซนเต์ถูกวิเคราะห์โดยนักจิตแพทย์และผู้เชี่ยวชาญหลายคน บางคนเชื่อว่าเขาอาจมีอาการป่วยทางจิต เช่น โรคไลแคนโทรปี (Lycanthropy) ซึ่งเป็นอาการที่ทำให้บุคคลเชื่อว่าตัวเองเป็นมนุษย์หมาป่า อย่างไรก็ตาม ศาลตัดสินว่าเขามีความผิดฐานฆาตกรรม และถูกพิพากษาประหารชีวิตในปี 1854 แต่ในท้ายที่สุด สมเด็จพระราชินีอิซาเบลที่ 2 แห่งสเปนได้ลดโทษให้เป็นจำคุกตลอดชีวิต เขาเสียชีวิตในปี 1863 ภายในเรือนจำ
.
แม้ว่าคดีของโรมาแซนเต์จะผ่านไปนานกว่าศตวรรษ แต่เรื่องราวของเขายังคงถูกเล่าขานและสร้างเป็นภาพยนตร์ รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของนิยายเกี่ยวกับฆาตกรต่อเนื่องและตำนานมนุษย์หมาป่าของสเปน