HOME
 
 
CONTACT
  TODAY TOPIC  
 

หญิงรักหญิง ในไทยมีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว

 
  20/09/2024  
 
รู้ไหมว่า 'หญิงรักหญิง' ในไทยมีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ในประวัติศาสตร์ไทยจะเรียกว่า 'เล่นเพื่อน'
.
และนี่คือเรื่องราวของใต้เตียงนางใน เพื่อนไม่เล่นเพื่อนที่แซ่บที่สุดในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
.
สมัยก่อนในวังเขตพระราชฐานชั้นในจะมีเฉพาะผู้หญิงอยู่ ห้ามผู้ชายเข้า ผู้ชายที่เข้าได้มีแค่พระมหากษัตริย์เท่านั้น สาว ๆ เหล่านั้นบางทีเขาจะทำการ 'เล่นเพื่อน' กัน ซึ่งการเล่นเพื่อนก็คือ ผู้หญิงกับผู้หญิงจะได้เสียกันเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เล่าลือกันมากจะเห็นได้จากตามจิตกรรมตามฝาผนังโบราณวาดเรื่องการเล่นเพื่อนเอาไว้
.
หลักฐานที่เปิดเผยและหลงเหลือมาให้พอได้ทราบกันบ้างในปัจจุบันเกี่ยวกับกรณีหญิงรักหญิงของสาวชาววัง ที่คนพูดถึงกันที่สุดเห็นจะไม่พ้นกรณีของ หม่อมสุดกับหม่อมขำ ข้าหลวงในกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ เพราะมีการบันทึกเป็นหลักฐานไว้ในรูปแบบกลอนเพลงยาว โดยล้อเลียนความสัมพันธ์ลึกซึ้งแบบหญิงรักหญิงของหม่อมสุดและหม่อมขำผ่าน กลอนเพลงยาวเรื่อง 'หม่อมเป็ดสวรรค์'
.
หม่อมเป็ดก็คือ หม่อมขำ ซึ่งคุณสุวรรณเรียกตามที่กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพทรงตั้งฉายาให้จากท่าเดินที่มักจะออกกิริยาแบบผู้หญิง ขณะที่หม่อมสุดนั้น ถึงแม้ร่างกายจะเป็นผู้หญิง แต่กลับมีบุคลิกเหมือนกับผู้ชาย
.
การ ‘เล่นเพื่อน’ ระหว่างหม่อมสุดกับหม่อมขำ หากพิจารณาตามบทกลอนที่คุณสุวรรณบันทึกก็จะได้ความว่า ในตอนถวายงานรับใช้กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพที่ปลายพระแท่นบรรทมนั้น หม่อมสุดได้ดับเทียนเอาผ้าคลุมโปงแล้วกอดจูบหม่อมขำ เพราะนึกว่ากรมหมื่นอัปสรสุดาเทพได้บรรทมหลับแล้ว
.
ในยุคสมัยนั้น ความรักในเพศเดียวกันของหม่อมสุดและหม่อมขำ ถือเป็นการผิดกฎมนเทียรบาล มาตรา 124 วรรคสอง ระบุว่า หากผู้ใดมีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ให้ทำการประจานด้วยการเฆี่ยนด้วยลวดหนัง 50 ที ใช้เครื่องพันธนาการที่คล้ายสะดึงใส่ที่คอ ลากประจานไปรอบพระราชวังให้เป็นที่อับอาย และให้เป็นที่รับรู้ทั้งชาวรั้วชาววังเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
.
นอกจากกรณีหญิงรักหญิงของหม่อมสุดกับหม่อมขำแล้ว อีกร่องรอยหนึ่งซึ่งปรากฏหลักฐานถึงสาวชาววังที่มีความรักต่อเพศเดียวกัน คือกรณีของเจ้าหญิงยวงแก้วจากดินแดนล้านนา
.
ปีพุทธศักราช 2449 ในพระบรมมหาราชวัง ในสมัยนั้นทุกคนต่างพูดกันว่า หากจะยลโฉมหญิงงามจากเมืองเหนือจะต้องไปที่ตำหนักของ พระราชชายารัศมี เท่านั้น

ข้าหลวงและนางในแห่งพระตำหนักยังเป็นที่เลื่องลือไปทั่วว่างดงามทั้งรูปโฉมและกิริยามารยาท โดยเฉพาะเจ้าหญิงเชื้อสายราชวงศ์เชียงตุงทรงเสน่ห์นามว่า ‘เจ้าหญิงยวงแก้ว’ สาวรุ่นวัยสิบเก้าที่ความสวยสดขจรขจายไปทั่วราชสำนักและตามวังของเสด็จในกรมต่าง ๆ
.
ถึงแม้จะเป็นสาวที่งดงามเกินใคร แต่เจ้าหญิงยวงแก้วกลับมีความรู้สึกนึกรักต่อผู้หญิงด้วยกัน โดยผู้หญิงชาววังในอีกตำหนักหนึ่งที่เจ้าหญิงจากล้านนาหลงใหล ก็คือ หม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพ ในหนังสือ เพ็ชร์ลานนา ซึ่งปราณี ศิริธร ณ พัทลุง เขียนเล่าถึงเรื่องราวของเจ้าหญิงยวงแก้วใช้คำอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหญิงล้านนากับหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพว่าทั้งสองเป็น ‘แฟน’ กัน
.
แต่ความจริงแล้วหม่อมเทพกลับมีสาวชาววังที่คบมาก่อนหน้านั้นแล้วชื่อ หุ่น ด้วยความที่อยากมีหม่อมเทพไว้แต่เพียงคนเดียว หุ่นจึงปล่อยข่าวโคมลอย ว่าเจ้าหญิงยวงแก้วนำแก้วแหวนเงินทองเพชรพลอยที่ได้รับประทานจากพระราชชายาเจ้าดารารัศมีมาปรนเปรอหม่อมราชวงศ์หญิงวงศ์เทพเพื่อเอาใจ เมื่อพระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้ฟังความก็โกรธมาก เรียกเจ้าหญิงเชื้อสายเชียงตุงเข้ามาพร้อมลงโทษอย่างรุนแรง ทั้งยังบอกให้นำของต่าง ๆ ที่เคยประทานให้มาคืนเสียให้หมด และจะส่งตัวกลับเชียงใหม่
.
เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง สูงขึ้นไปจากพื้นคือชั้น 4 ของพระตำหนักพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เจ้าหญิงยวงแก้วกระโดดทิ้งร่างตัวเองให้ร่วงหล่นลงมา เรือนร่างและรูปโฉมอันงดงามลงมากองสลบอยู่กับพื้น ก่อนจะถูกหามไปรักษาที่โรงพยาบาลฝรั่งทางประตูผี และแล้วที่โรงพยาบาลฝรั่งแห่งนั้น เจ้าหญิงผู้สืบเชื้อสายจากล้านนาก็หมดสิ้นลมหายใจ
.
สมัยนี้แม้คำว่า 'เล่นเพื่อน' จะพ้นสมัยไม่มีใช้แล้ว แต่พฤติกรรมยังมีอยู่ ไม่ว่าสังคมไทยจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม
______________________
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
-เครดิตข้อมูลโดย อาชญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ
-เครดิตข้อมูลโดย อเนก นาวิกมูล หญิงชาวสยาม
-เครดิตข้อมูลโดย ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช(1982) จากหนังสือชุดลักษณะไทย ภูมิหลัง
-เครดิตข้อมูลโดย หม่อมหลวง เนื่อง นิลรัตน์ ชีวิตในวัง
 
                 
           
Copyright © 2021 SOCOOL LIMITED. All right reserved.