HOME
 
 
CONTACT
  TODAY'S TOPIC  
 

มาซาบูมิ โฮโซโน
เมื่อการรอดตายจากเรือไททานิค
เป็นการสร้างความอัปยศให้ครอบครับ

 
  21/12/2022  
 

เกียรติยศ หน้าที่ และความอับอาย เป็นลักษณะสามประการที่หยั่งรากลึกลงไปในวัฒนธรรมญี่ปุ่น อันมีมานานหลายศตวรรษ การยอมตายอย่างกล้าหาญยังดีเสียกว่าที่จะรอดชีวิตกลับมาอย่างเสียเกียรติ และสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ชายญี่ปุ่นคนหนึ่งที่มีชื่อว่า “มาซาบูมิ โฮโซโน (masabumi hosono)” โดนโจมตีและโดนรุมประณามไปจนถึงวงศ์ตระกูลของเขาเพียงเพราะว่า เขาเป็นผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือไททานิค

เรื่องมีอยู่ว่าบนเรือไททานิคมีชาวญี่ปุ่นโดยสารมาด้วย โดยที่มีเขาเป็นชาวญี่ปุ่นเพียงคนเดียวบนเรือ ซึ่งเขาสามารถเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์เรือไททานิคล่มได้ด้วย แต่หลังจากนั้นสื่อญี่ปุ่นกลับโจมตีเขาว่า เป็นคนขี้ขลาด ไม่ยอมตายไปพร้อมกับคนอื่น ๆ เป็นเหตุให้เขาต้องตกงานไปช่วงหนึ่ง

ในฐานะพนักงานของกระทรวงการขนส่งของญี่ปุ่น มาซาบูมิ โฮโซโน ได้เดินทางไปทำงานที่รัสเซียและจองตั๋วชั้นสองบนเรือที่แสนจะหรูหราเหมือนฝันอย่างไททานิค เขาเดินทางมายังอังกฤษหลังจากที่ได้รับมอบหมายงานจากรัสเซีย ขณะที่เขาขึ้นเรือไททานิคที่เซาท์แธมตันเพื่อเดินทางกลับญี่ปุ่น

มาซาบูมิ หลับไปแล้วตอนที่เรือชนภูเขาน้ำแข็ง เสียงเคาะประตูห้องโดยสารได้ปลุกเขาให้ตื่นขึ้น เขาจึงรีบออกไปข้างนอกก็พบกับลูกเรือที่สั่งให้มาซาบูมิที่เป็นชาวต่างชาติย้ายไปที่ชั้นล่างของเรือ ซึ่งอยู่ห่างจากเรือชูชีพพอสมควร

มาซาบูมิเขียนเล่าเรื่องราวถึงประสบการณ์เฉียดตายที่เขาประสบพบเจอตอนเรือไททานิคล่มไว้ในจดหมายที่เขาเตรียมส่งให้กับภรรยาของเขา และข้อความนี้ได้มีการถูกตีพิมพ์เผยแพร่บน Titanica.org ในเวลาต่อมา

โดยตอนหนึ่งของเนื้อหาในจดหมายเขาเขียนยอมรับไว้ว่า “เขาไม่สามารถที่จะปัดเป่าความรู้สึกหวาดกลัวและความอ้างว้างออกไปได้เลย” เขายังกล่าวต่อในจดหมายอีกด้วยว่า เขาได้เตรียมตัวไว้แล้วสำหรับลมหายใจเฮือกสุดท้ายของชีวิตและหวังว่า “จะไม่ทิ้งสิ่งที่น่าอับอายไว้ในฐานะคนญี่ปุ่น”

แต่เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ท่ามกลางความตื่นตระหนกบวกกับเรือที่กำลังค่อย ๆ จมลง มาซาบูมิก็กำลังพยายามหาทางออกเพื่อเอาชีวิตรอดจากน้ำเย็นที่กำลังจะพรากชีวิตของเขาไปตลอดกาลเช่นกัน

ดังนั้นในตอนที่เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นบุคคลผู้ได้รับมอบหมายให้โหลดเรือชูชีพลงทะเลเพื่อหนีตาย (ข้อมูลแต่ละที่แตกต่างกันไป บ้างก็บอกว่าเป็นเรือชูชีพลำดับที่ 10 ไม่ก็ลำดับที่13) ตะโกนใส่ฝูงชนว่ามีที่ว่างสำหรับคนอีกสองคน ต่อหน้าต่อตามาซาบูมิและชายคนหนึ่ง . พอได้ยินเช่นนั้นมาซาบูมิจึงรีบกระโดดลงเรือเพื่อหนีตาย เพราะว่าเขาก็เป็นมนุษย์ที่พยายามตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด จะมีมนุษย์คนไหนบ้างล่ะที่ไม่รักตัวกลัวตาย มาซาบูมิยังเขียนอีกว่า “ในตอนนั้นเขาพบว่าตัวเองอยู่ในความสิ้นหวังอย่างสุดซึ้ง เมื่อคิดว่าตนจะไม่ได้พบคนที่รักและครอบครัวอีกตลอดกาล”

หลังจากได้รับการช่วยชีวิต ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อน ๆ มาซาบูมิก็ได้กลับบ้านเกิดที่ญี่ปุ่น และหนังสือพิมพ์ยังกล่าวถึงเขาในพาดหัวข่าวว่า “หนุ่มญี่ปุ่นผู้โชคดี” อีกด้วย เขายังให้สัมภาษณ์และมอบรูปถ่ายครอบครัวแก่สำนักพิมพ์หลายฉบับในญี่ปุ่นและสิ่งเหล่านี้ยังทำให้เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงในระดับหนึ่งขึ้นมา

อย่างไรก็ตามในไม่ช้าสิ่งต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ สิ่งดีกลับกลายเป็นสิ่งร้ายอย่างหน้าฉงน เนื่องจาก มาซาบูมิ ถูกตำหนิจากหนังสือพิมพ์ของสหรัฐอเมริกา ในนั้นมีการประณามมาซาบูมิอย่างรุนแรงจาก Archibald Gracie ผู้โดยสารชั้นหนึ่งและเป็นผู้รอดชีวิตจากเรือไททานิค ซึ่งผู้โดยสารคนดังกล่าวเรียกเขาว่า “พวกแอบหนีลงเรือ”

หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นเห็นดังนั้นจึงติดตามเรื่องนี้และรีบลงข่าวอย่างรวดเร็ว โดยมีเนื้อหาที่วิจารณ์มาซาบูมิต่อสาธารณะ และตำหนิเขาสำหรับการกระทำที่ขี้ขลาดและเห็นแก่ตัวของเขา ที่แอบหนีลงเรือแย่งที่นั่งผู้อื่นเอาชีวิตรอด ในขณะที่ยังมีอีกหลายคนต้องตายอย่างน่ากลัวท่ามกลางมหาสมุทรที่หนาวเหน็บ

หลังจากนั้นมาซาบูมิ ก็ถูกไล่ออกจากงานที่กระทรวง อีกทั้งยังมีหนังสือเรียนที่อ้างถึงกรณีของเขาเพื่อสอนเด็ก ๆ ว่า เป็นตัวอย่างของพฤติกรรมที่น่าขายหน้า ไม่ควรเอาเป็นแบบอย่าง

และยังมีอาจารย์ผู้สอนหนังสือบอกอีกว่า การกระทำของเขาผิดจรรยาบรรณอย่างสิ้นเชิง แต่หลังจากนั้นไม่นานมาซาบูมิก็ได้กลับไปทำงานพร้อมกับคำอธิบายที่ว่า เขาเป็นพนักงานที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก เขายังคงทำงานที่กระทรวงต่อจนกระทั่งเขาถึงแก่กรรมในปี 2482 อย่างไรก็ตามความอัปยศอดสูของเขาก็ยังคงตามติดเป็นเงาของชื่อเสียงวงศ์ตระกูลโฮโซโนต่อไป

ในขณะที่มาซาบูมิไม่เคยพูดเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับเหตุการณ์คืนที่เรือไททานิคจม แต่สมาชิกในครอบครัวของเขากลับตีพิมพ์จดหมายระบายอารมณ์ที่เขาเขียนถึงภรรยาของเขาหลายต่อหลายครั้งหลังจากที่เขาเสียชีวิต

จดหมายฉบับล่าสุดมาจากหลานของมาซาบูมิที่ชื่อ ฮารุโอมิ โฮโซโน ซึ่งเป็นนักดนตรีชื่อดังในญี่ปุ่น โดยเขาใช้ช่วงเวลาที่ หนังไททานิคของ เจมส์ คาเมรอน กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ออกมาเผยแพร่จดหมายดังกล่าว

เมื่อจดหมายของมาซาบูมิถูกเผยแพร่ออกไป พร้อม ๆ กันกับการฉายของภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว ทำให้คนทั่วโลกรวมไปถึงคนญี่ปุ่นเห็นภาพเหตุการณ์ของโศกนาฏกรรมทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ . ทุกคนก็คนเริ่มเข้าใจในเหตุการณ์ของผู้ที่ต้องมาประสบเคราะห์กรรมในครั้งนั้น ว่าพวกเขาต้องพบเจอกับความโหดร้ายและน่ากลัวเพียงใด รวมไปถึงการเข้าใจว่าทำไมทุกคนต่างต้องเอาชีวิตรอดในสถานการณ์นั้น ทำให้กระแสความรังเกียจตระกูลโฮโซโนในญี่ปุ่นเริ่มลดลง และทำให้คนญี่ปุ่นเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของชายคนนี้มากขึ้น

_____________________

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.thevintagenews.com/.../masabumi-hosono.../...

เซ็ปปุกุ (ฮาราคีรี): การจบชีวิตอย่างสมเกียรติของนักรบซามูไร

 
                 
                 
           
Copyright © 2021 SOCOOL LIMITED. All right reserved.