การจับถ่วงน้ำ วิธีพิสูจน์การเป็นแม่มดในช่วงศตวรรษที่ 15-17 ถ้าลอยน้ำคือแม่มด ถ้าจมน้ำคือคน
.
ในช่วงศตวรรษที่ 15-17 การล่าแม่มดได้แพร่ระบาดไปทั่วทั้งยุโรป ซึ่งเป็นยุคที่ผู้คนใช้ความเชื่อทางศาสนาและไสยศาสตร์มาเป็นหลักในกระบวนการพิสูจน์ความยุติธรรม บททดสอบนี้เป็นหนึ่งในหลายวิธีที่ใช้เพื่อค้นหาความจริง ทำให้มีผู้หญิงราว 50,000-100,000 คน รวมถึงบางส่วนที่เป็นผู้ชาย ต้องสังเวยชีวิตกับการพิสูจน์แม่มดที่ไม่มีความยุติธรรมแบบนี้
.
โดยกลุ่มเป้าหมายหลักในการล่าแม่มด จะเป็นผู้หญิงโดยเฉพาะหญิงชราที่อาศัยอยู่ตามลำพังหรือหญิงม่าย หรือผู้หญิงคนไหนที่มีพฤติกรรมแปลกประหลาด เช่น หยาบคาย พูดจาโผงผาง ทำตัวผิดปกติ หรือแม้แต่ใช้ชีวิตโดยพึ่งพาตัวเองได้มากเกินไป หญิงเหล่านี้ก็มีสิทธิ์ถูกพิจารณาคดีในข้อหาเป็นแม่มด
.
โดยมีวิธีการพิสูจน์ดังนี้
- ถ้าผู้ถูกกล่าวหาลอยขึ้นมา แปลว่าเป็น "แม่มด" เพราะเชื่อว่าน้ำซึ่งถือเป็นธาตุบริสุทธิ์จะปฏิเสธร่างกายของผู้ที่ทรยศศาสนา แต่ยังไงก็จะถูกประหารในฐานะแม่มดอยู่ดี
- ถ้าผู้ถูกกล่าวหาจมลง แปลว่า "บริสุทธิ์" แต่ก็จะนำไปสู่การจมน้ำเสียชีวิตอยู่ดี
.
โดยวิธีนี้แสดงถึงความขาดแคลนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และการพึ่งพาความเชื่อทางไสยศาสตร์มากกว่ากระบวนการยุติธรรม แต่เมื่อถึงยุคสมัยที่เปลื่ยนไปวิธีการเช่นนี้ก็ถูกละทิ้ง เนื่องจากผู้คนมองว่าเป็นวิธีการที่โหดร้ายและไม่ยุติธรรม